วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เที่ยว Art In Paradise

Art In Paradise


อาร์ต อิน พาราไดซ์ (Art In Paradise) คือพิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม3มิติแห่งเดียวในไทย ถูกก่อตั้งโดยนายชิน แจยอล (Mr.shin jae yeoul) เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งใหม่ของพัทยาและของประเทศไทย โดยพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว่า 5,800 ตารางเมตร
     ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งเป็นห้องแสดงงานต่างๆจำนวน 10 ห้อง ในแต่ละห้องจะมีการจัดแสดงภาพที่วาดขึ้นทั้งหมดได้แก่ ห้องแรกลวงตา ห้องใต้สมุทร ห้องแห่งสัตว์ป่า ห้องภาพวาดศิลปิน ระดับโลก ห้องอารยธรรม ห้องศิลปะแนวเหนือจริงห้องไดโนเสาร์ ห้องน้ำตก ห้องวิวทิวทัศน์ ห้องนิทรรศการศิลปะ 

      การเดินทางไป อาร์ต อิน พาราไดซ์ พัทยา จากถนสุขุมวิทเลี้ยวขวาตรงไฟแดงพัทยาเหนือ ขับตรงไปผ่านโลตัส ผ่านศาลาว่ากลางเมืองพัทยา เลยไปนิดนึง จะมีซอยซ้ายมือ เขียนว่าทางไปบิ๊กซีพัทยาหนือ ขับตรงไป 300 เมตร ขวามือ จะมีป้ายเขียนเป็นโชว์บิ๊กอาย จากนั้นก็จะถึง อาร์ต อิน พาราไดซ์ อยู่ติดกัน

      รายละเอียดเพิ่มเติม อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ เลขที่ 78/34 หมู่ 9 ถ.พัทยา สาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150 โทร.038 – 424500

      ต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 500 บาท เด็ก 300 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.)
      คนไทย ผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท เด็ก 100 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.)

      เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 21.00 น.(ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ปิดขายบัตรเข้าชม เวลา 20.00 น

 รวมภาพอาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ พัทยา 

อาร์ต อิน พาราไดซ์
อาร์ต อิน พาราไดซ์ พัทยา

อาร์ต อิน พาราไดซ์
อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ พัทยา 

อาร์ต อิน พาราไดซ์ พัทยา

อาร์ต อิน พาราไดซ์ พัทยา

อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ พัทยา 



แผนที่ อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ พัทยา 

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว กับ โรงเรียนชุมแสงชนูทิศ

เที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว กับ โรงเรียนชุมแสงชนูทิศ

เรามาเริ่ม Review กันไปเรื่อยๆดีกว่าค่ะ ทริปนี้ค่อนข้างยาวเลย เพราะอยู่กันทั้งวันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ก็จะมีส่วนที่เป็น HightLight กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ เรื่องความน่ารักของสิงห์สาราสัตว์ค่ะ

ที่ทางเข้าหลังจากจ่ายค่าผ่านทางแล้ว (50/คน) ก็จะมาเจอร้านค้าที่เค้าขายผักผลไม้สำหรับให้กับสัตว์(พวกกินพืช) ราคาที่ด้านหน้าจะถูกกว่าด้านในนิดหน่อย (ถุงละ 50 (ใหญ่) ซื้อ 2 แถม 1 ถุงเล็ก) เลยซื้อไปเพียบเลย เข้ามาถึงเราจะต้องผ่านหน้าสวนที่มีนกฟรามิงโก้อยู่ เรายังไม่ถ่ายรูป เลยไปเช่ารถกอล์ฟก่อน

 


ขับรถผ่านสวนนกฟรามิงโก้เข้ามาหน่อยจะเจอจุดเช่ารถกอล์ฟ เราสามารถจอดรถของเราไว้ที่ลานจอดรถตรงนี้ได้ แล้วเช่ารถกอล์ฟขับเที่ยวกัน 

ทำไมต้องเช่า? เหตุผลที่อยากให้เช่ารถกอล์ฟเพราะว่า การขับรถกอล์ฟจะทำให้เราสูดกลิ่นธรรมชาติ รับลมเย็นสบาย และ ดูสัตว์ได้ง่าย เข้าถึงสัตว์ได้สะดวกกว่า เพราะรถกอล์ฟไม่มีกระจกและคันเล็ก จอดได้ง่าย ลงง่าย และที่สำคัญคือ มันสร้างความสนุกให้กับคนขับและคนนั่ง เพราะในชีวิตประจำวันเราก็ไม่ได้นั่งรถกอล์ฟกันอยู่แล้ว อันนี้ขอบอกเลยว่า ถ้ามาเที่ยวแล้วเช่ารถกอล์ฟเนี่ย จะเที่ยวได้สนุกอย่างมากค่ะ สำหรับราคา ดูที่นี่เลย เช่าทั้งวัน ส่งรถคืน 6 โมงเย็น Trip นี้เราเช่าเหมาทั้งวันค่ะ ส่วนแผนที่ภายในส่วนสัตว์ก็ คลิกที่นี่เลย

 


ย้อนกลับมาดูนกฟรามิงโก้กัน จริงๆเราจะเจอสวนนกฟรามิงโก้ก่อนที่จะไปเช่ารถกอล์ฟนะ ถ้าเราเริ่มแวะถ่ายรูปตั้งแต่แรกเลยก็ได้ แต่ถ้าช่วงสายๆ แถวนี้อาจจะไม่สามารถจอดรถได้ เพราะที่จอดจะเต็ม ตอนเช้าที่ไป เหมือนพวกนกจะยังไม่ตื่น สังเกตดูท่านอนจะยกขา 1 ข้าง และเก็บหัวไว้ใกล้ตัว เห็นแล้วแปลกตาดีจัง

 


ถัดจากจุดเช่ารถกอล์ฟ เราจะเจอสวนชะนี ก็จะมีชะนีหลายแบบ เช่นสีดำ, สีขาว โหนไปโหนมา เวลาเดินบนพื้นท่าทางเหมือนคน

 


กำลังดูชะนีอยู่ดีๆ ก็มีนกด้านล่างเนี้ย โฉบลงมากินปลาที่อยู่ในน้ำรอบๆ เกาะชะนี แล้วมันก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ เราก็เดินตามไปถ่ายรูปมัน มันเป็นนกที่อิสระ เพราะมันสามารถบินไปไหนก็ได้ เดินอาดๆ ไปไหนก็ได้ ไม่กลัวคน แต่ถ้าเข้าไปใกล้มันมากๆ มันจะบินหนี

 


ถัดจากสวนชะนี ก็มาถึงสวนละมั่ง ซึ่งถือเป็น 1 ใน HightLight ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวค่ะ เพราะละมั่งที่นี่จะถูกปล่อยแบบอิสระ เดินไปเดินมาที่ไหนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ละมั่งพวกนี้ก็จะอยู่กันเป็นกลุ่มๆ ในสวนนี้

 


กิจกรรมสนุกๆ ที่สวนละมั่งแห่งนี้ก็คือการได้เล่นกับละมั่ง! เช่น ป้อนอาหาร, ลูบหัว, ถ่ายรูปละมั่งแบบใกล้ๆ เสียงละมั่งกัดแตง มันดังกร๊อบ ชอบจัง

 


พอเอากล้องไปจ่อถ่ายรูปละมั่งใกล้ๆ ก็จะได้ภาพดูหน้าตาตลกๆ แปลกๆ (เหมือน the dog) ขอตั้งชื่อภาพนี้ว่า เดอะมั่ง ^^

 


ถัดไปจากสวนละมั่ง ก็จะเป็นส่วนของลิง ก็จะเป็นพวกลิงกระรอก, ลีเมอร์หางแหวน, ลีเมอร์สีน้ำตาล และ ลิงอื่นๆ เราก็จะได้ดูลิงโหนไปโหนมา

 


ต่อจากลิงก็มาเป็นพวกแพะ, แกะ ตรงนี้ก็เป็นอีกที่ที่เราสามารถให้อาหารได้ แต่เค้าห้ามให้แตงกวานะคะ

 


ไปกันต่อที่ฮิปโป ซึ่งป้ายหน้าบ่อฮิปโปเนี่ย ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามราวกับราชสีห์ เลยลองเอารูปฮิปโปตัวจริงมาวางในมุมเดียวกันเพื่อเปรียบเทียบว่าน่าเกรงขามเหมือนป้ายหรือป่าว

 


นี่คือฮิปโปซึ่งดูแล้วแตกต่างจากป้ายด้านบนอย่างสิ้นเชิง สองตัวนี้คือแม่ลูกฮิปโปกำลังกินอาหารค่ะ

 


โชคดีมากที่ตอนไปถ่ายรูป ได้จังหวะฮิปโปกินน้ำพอดี เลยได้ถ่ายเก็บไว้ เริ่มจาก อาบหัวก่อน ค่อยอ้าปากกิน ตามด้วยหันมายิ้มกว้างๆ กับกล้อง

 


นี่ก็เป็นอีก 1 Hightlight ของการมาสวนสัตว์เปิดเขาเขียว คือการมาให้อาหารฮิปโป แต่ว่ามันไม่ใช่การให้อาหารสัตว์แบบธรรมดานะ การให้อาหารฮิปโปจะต้องใช้ฝีมือและความแม่นยำเป็นอย่างมาก คือเราจะต้องโยนกล้วยเข้าไปในปากฮิปโปที่กำลังอ้าปากค้างให้ได้ ดูจากภาพสุดท้ายจะเห็นว่าลงบ้างไม่ลงบ้าง หนุกดีค่ะ